อบรมต่อเนื่องชีวิตจิตครูคำสอน ครั้งที่1/2554
อบรมต่อเนื่องชีวิตจิตครูคำสอน ครั้งที่ 1/2554
ภาพและรายงานข่าวโดย...คุณครูสุดหทัย นิยมธรรม
ในปีการศึกษา 2554 สาขาวิชาคริสตศาสนศึกษา วิทยาลัยแสงธรรม
จัดโครงการอบรมต่อเนื่องชีวิตจิตครูคำสอนสำหรับนักศึกษา
ชั้นปีที่ 1-4 อีกครั้งหนึ่งต่อเนื่องจากปีการศึกษา 2553 เพื่อหล่อหลอม
นักศึกษาที่จะเตรียมเป็นครูสอนคริสตศาสนธรรม (ครูคำสอน)
ได้เจริญชีวิตอยู่ในพระจิตเจ้าซึ่งจะช่วยให้เขาฟื้นฟูตัวเองอย่างต่อเนื่อง
ตามเอกลักษ์ของตน ดังนั้นทางสาขาวิชาฯ จึงจัดโครงการอบรมนี้เพื่อ
เตรียมนักศึกษาให้มีจิตตารมณ์ชีวิตจิตและชีวิตหมู่คณะที่เข้มแข็งใน
กระแสเรียกที่ได้รับขณะที่กำลังศึกษาอยู่ในสาขาวิชาฯ ซึ่งในปีนี้ได้เชิญ
คุณพ่อเอกมัย เหลือหลาย คณะภราดาน้อยกาปูชิน เป็นวิทยากรให้
การอบรมการจัดการอบรมต่อเนื่องชีวิตจิตครูคำสอนมีผู้รับผิดชอบ
โครงการคือ คุณพ่อเจริญ ว่องประชานุกูล หัวหน้าสาขาวิชาฯ, คุณพ่อวัชศิลป์
กฤษเจริญ รองหัวหน้าสาขาวิชาฯ คุณพ่อบุญเลิศ สร้างกุศลในพสุธา
จิตตาธิการฯ, คุณครูสุดหทัย นิยมธรรม เจ้าหน้าที่สาขาวิชาฯ ซึ่งจะจัด
การอบรมเดือนละ 1 ครั้ง ในทุกวันพฤหัสบดีแรกของเดือน
รวมทั้งหมด 6 ครั้ง (7 ก.ค; 8 ก.ย; 17 พ.ย; 15 ธ.ค. 2554; 19 ม.ค.
และ 16 ก.พ. 2555) โดยใช้ศูนย์อบรมคริสตศาสนธรรม ระดับชาติ
(ศูนย์ซีซี) สามพราน เป็นสถานที่อบรม และได้รับการสนับสนุนโครงการ
และงบประมาณจากวิทยาลัยแสงธรรม และความร่วมมือของอธิการบ้าน
ของนักศึกษาทุกท่านที่สนับสนุนให้นักศึกษาเข้าร่วมโครงการนี้
อนึ่งในปีการศึกษานี้ ทางสาขาวิชาฯ จัดให้นักศึกษาที่สังกัดคณะนักบวช
เข้ารับการอบรมต่อเนื่องภาคเรียนละ 1 ครั้ง คือวันที่ 8 กันยายน และวันที่
15 ธันวาคม 2554 ซึ่งเป็นวันฉลองสาขาวิชาฯและวันครูคำสอนไทย และใน
ครั้งแรกนี้เริ่มวันที่ 7 กรกฎาคม 2554 มีนักศึกษาเข้ารับการอบรม 43 คนคือ
ปี1 จำนวน 15 คน, ปี 2 จำนวน 14 คน, ปี 3 จำนวน 7 คน, ปี 4 จำนวน 7 คน
คุณพ่อเอกมัย เหลือหลายได้แบ่งปันให้กับนักศึกษาดังนี้ "การเข้าเงียบทาง
ชีวิตจิตบอกว่าคือขั้นแรกของการมีความสัมพันธ์ การติดต่อกับพระเจ้านั่นก็คือ
พื้นฐานของการปรับคลื่นชีวิตของเราให้ตรงกับพระเจ้า นอกจากนี้การเข้าเงียบ
คือการฝึกปฏิบัติ การมีประสบการณ์กับความเงียบ ให้พระเจ้าเข้ามาในชีวิตของเรา
ดังนั้นการเข้าเงียบฝ่ายจิต
1) จึงเป็นช่วงเวลาที่ต้องหยุดทุกสิ่งทุกอย่าง หน้าที่การงาน การเรียนและพระเจ้า
จะเข้ามาในชีวิตของเราก็ต่อเมื่อเราสงบทั้งภายในและภายนอก 2) ต้องรู้จักฟัง
เสียงของพระองค์เมื่อเราเงียบแล้วเราต้องปรับคลื่นของเราให้ตรงกับพระเจ้า
และพระองค์จะพูดก็ต่อเมื่อบุคคลนั้นตั้งใจฟังจริงๆ และที่สุดเมื่อความเงียบเกิดขึ้น
เราก็จะภาวนาได้ การภาวนาคือการอยู่กับพระเจ้า สิ่งสำคัญคือการมีความ
ปรารถนา การมีแรงบันดาลใจเหมือนกับคนที่รักกันเขาก็จะมีแรงบันดาลใจ
ที่อยากจะพบกัน เช่นเดียวกันทุกครั้งที่เรามีความปรารถนา มีแรงบันดาลใจ
ที่จะอยู่กับพระเจ้า เขาก็จะสามารถสร้างความสัมพันธ์ ความเป็นหนึ่งเดียวกับ
พระองค์ได้ ไม่มีใครที่สามารถจะเปลี่ยนแปลงตัวเราได้นอกจากพระเจ้าเท่านั้น
เป็นความปรารถนาของพระองค์ที่จะทำให้ชีวิตของเราดีขึ้น..."
ต่อจากนั้นได้ให้นักศึกษาใช้เวลาอยู่เงียบๆ ส่วนตัว เฝ้าศีลมหาสนิท
รับศีลอภัยบาป สวดสายประคำ แบ่งปันพระวาจา และจบด้วยการร่วม
พิธีมิสซาบูชาขอบพระคุณด้วยกัน